วันจันทร์
มันเป็นเรื่องเกือบจริงที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเอง ...
ผู้เข้าชมรวม
3,051
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ครับ ผมชื่อ ติงลี่ แต่เพื่อนผมชอบเรียกผมว่า ลี่ เพราะมันสั้นกว่า ผมเป็นเด็กมหาลัยธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่สะดุดตาของใครๆ และต้องตื่นแต่เช้าไปเรียนเหมือนคนอื่นเขา
ในขณะที่ผมงัวเงียขี้ตาอยู่นั้น เพื่อนเมทผมก็ดูรีบร้อนเป็นพิเศษและออกจากห้องไปโดยที่ผมได้แต่นั่งมองอย่างงงๆ ผมนั่งหาวพร้องกับบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์ก่อนจะหันไปดูนาฬิกาบนโต๊ะข้างๆ
“อืม 8 โมงเช้าแล้วหรอเนี่ย” ผมพูดขึ้นมาอย่างใจเย็นก่อนจะเริ่มรู้สึกตัว “เฮ้ย!!! สายแล้วนี่หว่า” ผมตาสว่างขึ้นทันทีและรีบอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน สายๆๆๆๆๆ ผมได้แต่บ่นออกมาในใจอย่างรีบร้อน เมื่อมาถึงอาคารเรียนผมวิ่งสุดแรงเพื่อให้ไปถึงห้องเรียนให้ทันเช็คชื่อ แต่ขณะที่ผมวิ่งอยู่นั้นผมก็ได้ไปชนกับใครบางคนเข้าทำให้เราล้มทั้งคู่
“โอ้ย... ขอโทษนะครับ คือผมกำลังรีบน่ะครับ” ผมกะพูดแค่นั้นแล้วจากไปเพราะผมสายเอามากๆแล้ว
“มะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเดินไม่ระวังเอง ขอโทษนะคะ” ทันใดนั้นเอง ความคิดที่จะจากไปของผมก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงหวานๆของอีกฝ่ายที่ล้มอยู่เช่นกัน ให้ตายสิ ผมชนเข้ากับนางฟ้าหรือนี่ ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อยถึงปานกลางและหัวใจที่เริ่มเต้นผิดปรกติไปจากเดิม มันทำให้ผมต้องก้มหน้าเพื่อลดความประหม่านั้น ผมเหลือบไปเห็นเอกสารต่างๆของเธอที่ลอยปลิวและกระจัดกระจายเต็มพื้น ผมได้แต่เงียบและเริ่มเก็บเอกสารพวกนั้นอย่างช้าๆ แม้ว่าผมจะสายมากแล้วก็ตาม แต่จะให้ทำยังไงล่ะ ผมก็มีส่วนผิดที่ไปชนเธอจนเอกสารกระจาย และอีกฝ่ายก็เป็นสาวที่น่ารักซะขนาดนั้น โอกาสจะพบสาวในฝันแบบนี้ไม่ได้มีกันบ่อยๆหรอกนะ
“เอ่อ คุณกำลังรีบไม่ใช่หรอคะ เดี๋ยวฉันเก็บเองก็ได้” เธอพูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆเก็บเอกสารเหล่านั้นเช่นกัน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ไม่ได้รีบขนาดนั้น” เมื่อผมพูดจบเธอก็มองมาที่ผมแล้วมอบรอยยิ้มเล็กๆจากใบหน้าที่เย้ายวนชวนมองของเธอ ถึงไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะผมคิดในใจ ทันในนั้นเองเหตุการไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่าบังเอิญ เมื่อผมและเธอเอื้อมมือไปเก็บกระดาษแผ่นสุดท้ายนั่นเอง มือของเราทั้งคู่ก็ได้สัมผัสกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เพียงเสี้ยววินาทีนั้นผมรู้สึกถึงความอบอุ่นและน่าทะนุถนอมจากมือของเธอ มันทำให้หัวใจของผมเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะกว่าเดิม เธอรีบชักมือของเธอกลับอย่างรวดเร็วและเบนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินและแก้มของเธอเริ่มมีสีแดงอมชมพูระเรื่อลอยขึ้นมา ผมคิดว่าหน้าของผมในตอนนั้นก็คงจะแดงกล่ำเช่นกัน เราทั้งสองต่างรีบลุกขึ้นและประหม่ากันมากขึ้น ผมส่งกระดาษแผ่นนั้นที่ถืออยู่ในมือให้กับเธอ เธอรีบรับมันไปอย่างรีบร้อนและกล่าวขอบคุณก่อนที่เธอจะรีบเดินจากผมไป ผมได้แต่ยืนอมยิ้มด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและความดีใจ ผมหันไปมองดูเธอเดินจากไปอย่าช้าๆจนลับไปจากสายตา แต่แล้วผมก็ต้องรู้สึกผิดหวังอย่างมากอีกครั้ง เพราะผมดันลืมถามชื่อของเธอ
“โถ่เอ้ย ไอ้โง่ อุส่าเจอคนถูกใจแล้วแท้ๆ ทำไมไม่ทำความรู้จักกับเขา... เฮ้อ....” หลังจากนั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความประหม่าของผมที่มีในตอนนั้น ... จากนี้ต่อไปจะได้เจอกันอีกไหมเนี่ย ถ้าได้เจอกันจะทำต้วยังไงดีล่ะ แล้วเธอคนนั้นมีแฟนแล้วหรือยังเนี่ย โหยน่ารักขนาดนั้นคงจะมีแล้วล่ะมั้ง แต่ถ้าไม่มีก็ดีล่ะจะได้จีบซะเลย แต่หน้าอย่างเราเนี่ยนะจะไปจีบเธอ คงจะผิดหวังอีกตามเคยสินะเรา ... ผมได้แต่คิดดังๆอยู่ในหัวสมองของผมวนไปเวียนมาอยู่หลายรอบ ในวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้พบก็ใครสักคนที่เราคิดว่าใช่ถึงในหัวมันจะแย้งว่าอาจไม่ได้เจอกันคนๆนั้นอีกก็ตาม แต่ในตอนนั้นมันทำให้ผมได้รู้สึกถึงคำว่ารักแรกพบเลยก็ว่าได้ แต่จะยังไงผมก็ต้องขอบคุณเพื่อนผมที่ปลุกผมซะสายและทำให้ได้เจอกับเธอ ... โคลกกกกก เสียงท้องของผมดังขึ้นกลางวิชาเลขที่ผมกำลังเรียนอยู่ ผมได้แต่ยิ้มอย่างเขินๆเมื่อเพื่อนในห้องของผมต่างพากันหันมามองและส่งเสียงหัวเราะกันยกใหญ่กับเสียงนั้น มันทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าลืมกินมื้อเช้า ถึงอิ่มอกอิ่มใจแค่ไหนแต่ท้องมันไม่ได้อิ่มด้วยสินะผมคิด
หลังจากหมดคาบเรียนแล้ว ผมก็ไปกินข้าวคนเดียวในร้านอาหารประจำนอกมหาลัยตามปรกติ แต่วันนี้เหมือนจะไม่ใช่วันปรกติสำหรับผมซะแล้ว ในขณะที่ผมกำลังตักข้าวคำแรกเข้าปากนั้น ก็มีเสียงของผู้หญิงที่รู้สึกคุ้นเคยดังขึ้น
“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ คือ โต๊ะมันเต็มหมดแล้วอ่ะค่ะ” ผมเงิยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงทั้งๆที่ปากยังอ้าเหวอ อยู่ ใช่!!! ผมได้เจอกับเธอคนนั้นอีกครั้ง ผมรีบหุบปากของตัวเองที่เหวออยู่และวางช้อนลง เธอหัวเราะเบาๆที่เห็นผม เหวอ “เอ่อ ได้ครับ” เธอยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนกล่าวคำว่าขอบคุณ ผมดีใจที่ได้เจอกับเธออีกครั้ง แต่นั่นมันก็ทำให้ผมประหม่าไม่น้อยเช่นกัน ในระหว่างที่ผมกำลังนึกคำพูดว่าจะคุยอะไรกับเธอดี เธอก็กลับเป็นคนเริ่มบทสนทนาซะเอง
“เธอชื่ออะไรหรอ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงใสๆอย่างเป็นกันเอง
“เอ่อ เราชื่อติงลี่ แล้วเธอล่ะ” ผมตอบเธออย่างตะกุกตะกักและเขินเล็กน้อย แทนที่ผมจะต้องเป็นคนถามก่อนและเธอต้องเป็นฝ่ายเขินสิมันถึงจะถูก ผมคิดอยู่ในใจ
“เราชื่อเมลนะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ไม่นานหลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันอย่างเป็นกันเองมากขึ้น และเริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่ารู้จักกันมานานแสนนาน หลังจากที่เราทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ผมก็ได้ชวนเธอไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเพื่อย่อยอาหาร เธอดูร่าเริงกว่าที่เราอยู่ในร้านอย่างเห็นได้ชัดและนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมใจมาก เราสองคนยังคุยกันอย่างเป็นปรกติจนเมื่อตะวันเริ่มที่จะคล้อยต่ำลงและดูเหมือนจะเริ่มลาลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์สาดส่อง ในยามเย็นเริ่มกลายเป็นสีส้มอ่อนนวลน่าหลงใหล และสายลมที่พัดเข้าประทะตัวอย่างแผ่วเบาชวนให้ผ่อนคลาย ในเวลานั้นราวกับว่าเราทั้งสองได้เข้าไปอยู่ในฉากของหนังรักโรแมนติกที่ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นพิเศษให้กันเราสอง ผมมองดูเธอที่กำลังส่งยิ้มมาให้ผม ในตาของเธอช่างเป็นประกายระยับจับใจ แก้มเธอนั้นนวลระเรื่อชมพูอดสีส้มของแสงตะวัน และริมฝีปากอันอวบอิ่ม มันทำให้ผมเหมือนจะละลาย ผมเดินเข้าไปยืนข้างๆกับเธอที่กำลังมองพระอาทิตย์ตก
“นี่ เธอเชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่า” เธอถามผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เชื่อสิ” ผมตอบ เธอหันมามองที่ผม ผมยิ้มให้เธอและพูดว่า
“เพราะมันทำให้เราได้พบกับเธอไง” เธอยิ้มให้ผมและเริ่มหน้าแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเธอก็เริ่มเดินห่างออกไปจากผมเล็กน้อย และหันมาพูดว่า “เราก็เชื่อนะ” เราทั้งสองยิ้มให้กันเลยกันอย่างมีความสุข ผมเริ่มออกเดินให้ทันเธอ แต่ ไม่นานต่อจากนั้นความมืดก็เข้าปกทุกที่อย่างรวดเร็ว มันมืดซะจนไม่สามารถมองเห็นแม้แต่ตัวของผมเอง ผมตะโกนเรียกเธออย่างสุดเสียงด้วยความเป็นห่วง หัวใจผมเริ่มกระวนกระวายและเต้นอย่างรุนแรง ผมหลับตาเพื่อตั้งสติ แต่แล้วผมก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นเมื่อผมได้ลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างกลับสว่างสดใสราวกับตอนเช้าตรู่
“ตื่นแล้วหรอ เมื่อกี้นายเป็นอะไรหรือเปล่า ตะโกนซะดังลั่นเชียว ตกใจหมด อ่อ วันนี้วันจันทร์นะนายมีเรียนเช้า” เสียงเพื่อนรูมเมทผมดังขึ้น
ผมลุกขึ้นนั่งบนที่นอนและมองไปรอบๆพลางถอนหายใจและหัวเราะให้กับความฝันที่ผ่านพ้นไป เช้านี้อากาศสดใส มีลมพัดเย็นพัดมาเป็นช่วงๆ แสงแดดอ่อนๆไม่แรงมากทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าร้อน ผมยังมีเวลาเดินเล่นอีกเยอะกว่าจะถึงชั่วโมงเรียน แต่ในขณะที่ผมกำลังเดินเล่นเพลินๆอยู่นั้น
“โอ๊ย!!! ขอโทดค่ะ”
ผลงานอื่นๆ ของ ดินสอสีฟ้า ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ดินสอสีฟ้า
"^o^"
(แจ้งลบ)หักมุมสุดๆ >//// ... อ่านเพิ่มเติม
หักมุมสุดๆ >//// อ่านน้อยลง
amywiriyamami | 8 ก.พ. 55
0
0
"^o^"
(แจ้งลบ)หักมุมสุดๆ >//// ... อ่านเพิ่มเติม
หักมุมสุดๆ >//// อ่านน้อยลง
amywiriyamami | 8 ก.พ. 55
0
0
ความคิดเห็น